
สลด..หนุ่มใหญ่เพิ่งอาสาชี้จุดแทงกันตายในไร่มันสำปะหลัง ตกเย็นถูกคู่อริวัยดึกใช้มีดจ้วงแทงตายในงานศพแรก คนแทงอ้าง แค้นจากถูกหยามแพ้ไฮโลเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
นครราชสีมา – ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีช่วงสายวานนี้ (10 เมษายน 2566) ได้เกิดเหตุ นายหมอน ปัตถามัย อายุ 72 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิต อยู่กลางไร่มันสำปะหลัง ในอ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 3 ได้ลงพื้นที่ชันสูตรศพในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมอบศพให้ญาตินำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้ว อยู่ระหว่างสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีนั้น
ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (10 เมษายน 2566) ขณะที่ชาวบ้านกำลังช่วยกันจัดงานศพท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติผู้เสียชีวิต ก็ปรากฏว่า เกิดเหตุชาวบ้านเดียวกัน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันและแทงกันเสียชีวิตซ้ำอีก 1 ศพ ต่อหน้าชาวบ้านจำนวนมากที่มาช่วยงานศพ
ซึ่งต่อมา ชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ก่อนที่จะโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มานำตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์แทงกันเสียชีวิตที่เกิดขึ้น 2 ศพในคราวเดียวกันนี้ สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านทรัพย์ทวีเป็นอย่างมาก
ล่าสุด วันนี้ 11 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่หมู่บ้านทรัพย์ทวี หมู่ที่ 17 ต.หนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายหมอน ปัตถามัย (ศพแรก) ไว้ที่บ้าน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีครอบครัวและเครือญาติของผู้เสียชีวิต มาล้อมวงกันนำกระดาษสาสีดำมาห่อเหรียญไว้โปรยในช่วงระหว่างเคลื่อนศพไปยังเมรุก่อนประกอบพิธีฌาปนกิจศพ และมีร่องรอยการนำดินทรายมาถมกลบคราบเลือดจากการแทงกันตายอีก 1 ศพในบ้านงานด้วย
นายสุพัฒน์ ไชยดลุน อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านทรัพย์ทวี ม.17 เปิดเผยว่า ไม่คาดคิดว่าระหว่างที่ทุกคนต่างโศกเศร้าต่อการจากไปของนายหมอน ที่ถูกฆาตกรรม จะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทแทงกันตายอีก ซึ่ง นายแก่น พับขุนทด อายุ 55 ปี (ศพสอง) ผู้เสียชีวิต ผู้ก่อเหตุคือ นายทองมา กินนารี อายุ 82 ปี
ซึ่งเมื่อวานนี้ นายแก่น ยังอาสาพาผู้สื่อข่าวไปดูไร่อ้อยและไร่มันสำปะหลัง จุดเกิดเหตุฆาตกรรมนายหมอนฯ อยู่เลย เป็นภาพสุดท้ายที่ทุกคนได้เห็นก่อนนายแก่นฯ จะถูกเพื่อนบ้านแทงตาย ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์แทงกันซ้ำต่างก็ทำใจไม่ได้ เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และกำลังช่วยกันเตรียมงานศพของนายหมอน ไม่คาดคิดว่าจะเกิดปัญหาฆ่ากันตายขึ้นอีก
ตนก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ได้ยินเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้ก่อเหตุ บอกว่า เคยมีเรื่องกันมาก่อนเมื่อสิบปีที่แล้ว มีการยัดไฮโล หรือแพ้ไฮไลอะไรประมาณนี้ แล้วพูดหยามกันมาเรื่อยๆ ซึ่งตนก็ไม่ได้สอบถามเพิ่มเติมเพราะกำลังห่วงดูอาการผู้บาดเจ็บอยู่ ซึ่งบ้านของผู้ก่อเหตุกับผู้ตาย ก็อยู่ติดกัน
ปกติผู้ก่อเหตุจะไม่เคยไปช่วยงานใคร ตนก็รู้สึกแปลกใจที่คราวนี้มาช่วยงานศพของนายหมอน แล้วยังมาก่อเหตุแทงคนอีก ชาวบ้านต่างพากันตกใจ แต่ก็พยายามช่วยกันจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งๆ ที่ในมือยังถือมีดอยู่ ส่วนตนก็พยุงผู้บาดเจ็บให้นอนที่พื้นรอรถกู้ชีพฯ มาช่วย ซึ่งตอนนั้น นายแก่น ยังไม่เสียชีวิต แต่พอกู้ชีพฯ มาถึง ตรวจสอบก็พบว่า ชีพจรอ่อนมาก ต้องปั๊มหัวใจยื้อชีวิตตลอดเวลา แล้วนำไปส่งต่อรถกู้ชีพของ รพ.สีคิ้ว เพื่อทำการรักษา แต่เจ้าหน้าที่ฯ แจ้งว่า นายแก่ฯ ได้เสียชีวิตลงก่อนแล้ว
ในขณะเดียวกัน ญาติได้ไปรับติดต่อรับศพของนายแก่น ที่ รพ.สีคิ้ว หลังจากแพทย์ชันสูตรเสร็จแล้ว นำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศล ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
เมื่อผู้สื่อข่าวได้เปิดคลิปภาพเหตุการณ์ขณะนายแก่น อาสาพาไปดูจุดเกิดเหตุ ครอบครัวและญาติของนายแก่น ถึงกับน้ำตาไหลร่ำไห้ต่อการจากไปขอองนายแก่น
โดย นางประกอบ อายุ 54 ปี น้องสาวนายแก่น ผู้ตาย เปิดเผยว่า นายแก่น ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน เมื่อทราบข่าวว่านายหมอน ถูกแทงตาย ก็รีบมาช่วยงานศพ ช่วยกางเต้นท์ จัดสถานที่ ไม่คาดคิดว่านายทองมา จะเก็บความเคียดแค้นเอาไว้เพราะเรื่องบาดหมางก็ผ่านมา 10 ปีแล้ว
พอเห็นพี่ชายของตนช่วยจัดสถานที่งานศพเสร็จแล้ว กำลังนักพักที่เก้าอี้ นายทองมา ก็ปรี่เข้ามาล็อกคอทางด้านหลัง แล้วจ้วงแทงทันทีโดยไม่ให้ตั้งตัว แทงทะลุปอดเต็มๆ ตนก็คิดว่าถูกแทงเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อดูสภาพของพี่ชายแล้ว อาการสาหัสมาก เลือดท่วมตัว ตนโมโห ก็เลยกระโดดถีบผู้ก่อเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านที่มารุมช่วยกันจับตัวผู้ก่อเหตุ และห้ามตนเอาไว้
ซึ่งพี่ชายของตนอยู่เพียงลำพัง เพราะเมียเลิกรากันไปแล้ว ลูกก็โตๆ แยกย้ายกันไป พี่ชายของตนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง มักจะเป็นลมหน้ามืดบ่อยๆ แต่ก็ช่วยเหลือสังคมดี ส่วนผู้ก่อเหตุก็เคยก่อเหตุมาหลายครั้ง แต่ไม่เคยเข้าคุกสักที ไม่รู้จะมาก่อเหตุซ้ำอีกหรือไม่ ชาวบ้านหลายรายต่างรู้สึกกังวลกลัวจะก่อเหตุอีก
The post สลด…หนุ่มใหญ่เพิ่งเป็นพยานเหตุแทงตายในไร่มัน ตกเย็นถูก ‘ผู้เฒ่า’ จ้วงดับคางานศพ appeared first on มติชนออนไลน์.
Source: Matichon