
สมัชชาคนจน พอใจผลถกแก้ปัญหา 7 เรื่อง! ลั่นเฝ้าตามต่อ รัฐบาลรับปาก ‘ทำได้จริง’ หรือ ‘ปากหวานไปเรื่อย’
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เขตพระนคร กุงเทพฯ นายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน เข้าเจรจาหากับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถูกมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี ให้เป็นผู้เจราจาเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหากลุ่มสมัชชาคนจนนั้น
บรรยากาศเวลา 11.55 น. นายบารมี ผู้ประสานสมัชชาฯ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาตามที่นัดหมายกับร้อยเอกธรรมนัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งท่านได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้เป็นตัวแทนในการเจรจาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
“วันนี้ตกลงกันไว้ว่า จะเอาเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรฯก่อน ซึ่งมีประมาณ 7 เรื่อง ที่มาคุยกันในวันนี้ เป็นเรื่องเขื่อนโป่งขุนเพชร จ.ชัยภูมิ, เขื่อนราษีไศล จ.ร้อยเอ็ด จ.สุรินทร์ และ จ.ศรีสะเกษ, เขื่อนหัวนา จ.ศรีสะเกษ, เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี, เรื่องป่าสงวนแห่งชาติ ป่ารับร่อ จ.ชุมพร, ป่าไม้ เขตเขาพระทอง จ.นครศรีธรรมราช, ป่าไม้ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง และเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่ และเขื่อนท่าแซะจังหวัดชุมพรด้วย” นายบารมีกล่าว
นายบารมี กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องไหนได้ข้อยุติแต่อย่างใด แต่หลายเรื่องก็มีความคืบหน้า เช่น วันเสาร์นี้จะลงพื้นที่ไปดูที่ชุมพร ดูพื้นที่ที่มีปัญหาส.ป.ก.อยู่ในเขตป่า จะหาทางออก หาทางแก้ไขได้อย่างไร
“ในเรื่องของแก่งเสือเต้น เขื่อนท่าแซะ รัฐมนตรีฯ ก็รับปากว่าจะไปดูพื้นที่ด้วยตัวเอง อย่างเรื่องเขื่อนสิรินธรและเรื่องป่า ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรฯ ก็รับปากว่าจะไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาเจรจากันอีกทีหนึ่ง รวมถึงเรื่องเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา กรมชลประทาน ก็รับปากว่าจะดูแลแต่งตั้งคณะกรรมการให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
วันนี้ได้เท่านี้ผมก็ถือว่าพอใจทีเดียว ก็ต้องดูว่าถ้าวันเสาร์ไปลงพื้นที่จะเป็นอย่างไร หากสามารถยุติปัญหาได้สักเรื่องหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของรัฐบาลและเรา ที่ร่วมมือกันแก้ปัญหา สักเรื่องหนึ่งนำร่องก็ยังดี” นายบารมีเผย
นายบารมีกล่าวต่อว่า การชุมนุมของสมัชชาคนจนทุกครั้ง คือการชุมนุมปลายเปิด เราไม่เคยกำหนดว่าจะกลับวันไหน เราเคยชุมนุมสูงสุดเมื่อปี 2540 เป็นเวลา 99 วัน แต่ว่าเราไม่ต้องทำแบบนั้น เพราะเราไม่ได้มาชุมนุมเอาสถิติ
“ถ้าเสร็จเร็วก็ยิ่งดี เราก็อยากกลับเร็ว แต่เราเคยมีประสบการณ์อยู่มา 99 วันแล้ว เราสามารถอยู่ได้ถึง 99 วัน เรามีข้อเรียกร้องถ้าเรื่องไหนยุติได้ ก็ยุติเลย แต่ถ้ายุติไม่ได้ก็ต้องตกลงกันว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการแก้ไขปัญหา ดำเนินการอย่างไร เช่น ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาเรื่องที่ตกลงกันต้องนำเข้า ครม. พิจราณาเห็นชอบแก้ไขปัญหาตามที่ตกลงกัน คิดว่าหลายเรื่องคงต้องใช้เวลา อย่างไรก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่หวังว่าถ้าหลายเรื่องยุติได้เร็ว ก็จะเป็นเรื่องที่ดี และเป็นผลงานของรัฐบาล
เรายังชุมนุมติดตามในฐานะที่เราต้องตรวจสอบการทำงานรัฐบาล และรัฐบาลต้องตรวจสอบสิ่งที่เรามานำเสนอ มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ชอบธรรม เป็นจริงหรือเปล่า สิ่งที่รัฐบาลรับปากเป็นเรื่องที่ทำได้จริงหรือเปล่า หรือว่ายื้อไปเรื่อย ปากหวานไปเรื่อย” นายบารมีกล่าว
นายบารมีกล่าวอีกว่า วันนี้เป็นการนัดหมายร่วมกัน จากเมื่อวานนี้ที่ ครม.มอบหมายให้งานให้รัฐมนตรี ท่านก็มาพบกับเราในที่ชุมนุม ว่าได้รับมอบหมายมาแล้ว ให้ทางสำนักปลัดสำนักนายกฯ จัดวางไทม์ไลน์การแก้ปัญหา ถือว่าเป็นการนัดหมายร่วมกัน
“นัดหมายเจรจาอีกครั้ง คือวันที่ 16 ตุลาคม ช่วงบ่าย แต่ช่วงนี้ก็มีวันที่ 14 ไปลงพื้นที่จังหวัดชุมพร อันนี้ท่านรัฐมนตรีอาจจะไม่ได้ แต่เป็นการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานกับพวกเราที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะยังอยู่ที่นี่ ส่วนตัวยังคงกังวลอยู่ทุกเรื่อง แต่มีความรู้สึกที่ดีขึ้น ซึ่งการเรียกร้องการแก้ปัญหาของพวกเรา มันสามารถเป็นไปได้อย่างมีรูปธรรมและเป็นแบบอย่างที่นำไปสู่การเรียกร้องของคนกลุ่มอื่นๆ ได้เช่นกัน ถ้าพี่น้องสามารถใช้บรรทัดฐานแบบเดียวกันนี้ได้ ผมก็เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาของคนจน ที่เดือดร้อนจากโครงการพัฒนาของรัฐได้” นายบารมีกล่าว
นายบารมีกล่าวอีกว่า รัฐบาลก็ไปหาเราทุกวัน ฝ่ายค้านก็ไปหาเราทุกวัน ถ้าทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ช่วยกันร่วมมือแก้ไขปัญหาให้เรา เราก็เชื่อมั่น
“ขอบคุณทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เราฝากความหวังไว้กับตัวเอง ถ้าเรามีพลัง มีอำนาจต่อรองอยู่ เราก็เชื่อว่าทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านฟังเรา แต่วันใดที่เราไม่มีพลัง ไม่มีความชอบธรรมเพียงพอ รัฐบาลก็คงจะไม่เห็นหัวเรา” นายบารมีกล่าว
The post ‘สมัชชาคนจน’ ตามต่อ ทำได้จริงหรือแค่ ‘ปากหวาน’ พอใจผล หลังได้ถกรัฐบาล 7 เรื่อง appeared first on มติชนออนไลน์.
Source: Matichon
