
ต่อคิวยาว! วัยรุ่น-นศ.ขอลายเซ็น ‘ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี’ เผย สังคมเท่าเทียมไม่ใช่โลกในอุดมคติ ต้องได้รัฐบาลดี-ประชาชนร่วมผลักดัน
เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG มีการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 21 โดย สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ร่วมกับ BOOKWALKER ในแนวคิด “Book Fluencer” ผู้นำอ่าน ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม – 9 เมษายนนี้
สำหรับสำนักพิมพ์มติชน ประจำที่บูธมติชน M49 ดึงศิลปินชื่อดัง “ไข่แมว” ผู้วาดการ์ตูนน้องตาใส ผสมอารมณ์ขันยั่วล้อการเมือง มาร่วมออกแบบบูธและของพรีเมียม เตรียมเสิร์ฟนักอ่านแบบจุใจ ในธีม “BOOKSELECTION” โดยถ่ายทอดเส้นสีแสบสันยั่วล้อไปกับโมงยามของการเมืองเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ภายในบูธอัดแน่นด้วยหนังสือ ครอบคลุมทุกความสนใจ อาทิ แนวการเมือง ประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ รัฐสวัสดิการ การเมือง ไสยศาสตร์-ทุนนิยม เมืองในฝัน ผู้นำ ชนชั้น อำนาจ จิตวิทยา-แรงบันดาลใจ วรรณกรรม วิทยาศาสตร์ ตลอดจนหนังสือสุขภาพ โดยหนังสือใหม่ที่เปิดตัวในงานนี้ ทั้ง 26 ปก ลด 15% ส่วนหนังสือขายดีลดพิเศษถึง 20%
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 13.30 น. รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ผู้เขียนหนังสือ ‘แด่ทุกต้นกล้าความฝัน : ประวัติศาสตร์ กรณีศึกษา และเส้นทางการต่อสู้สู่รัฐสวัสดิการ’ มีการแจกลายเซ็นให้กับผู้ที่มาซื้อหนังสือภายในงาน โดยมีผู้ต่อแถวขอลายเซ็นป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและนักศึกษา
รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดเรื่องสังคมที่ยุติธรรมและการตั้งคำถามว่าทำไมเราถึงคู่ควรที่จะอยู่ในสังคมแบบนี้ ซึ่งเราพยายามจะชี้ให้เห็นว่าสังคมที่เท่าเทียมนั้นไม่ใช่เป็นโลกในอุดมคติหรือโลกยูโทเปีย มันมีสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เช่น การเลิกทาสหรือผู้หญิงเท่าเทียมกับผู้ชาย มีประเทศที่คนสามารถเรียนหนังสือได้ฟรีและสามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างสมศักดิ์ศรี เพราะฉะนั้นหนังสือเล่มนี้เป็นการถ่ายทอดไอเดียว่าเราสมควรที่จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ในสังคมที่เราเรียกกันว่ารัฐสวัสดิการ
เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนี้ต้องเป็นรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์หรือนโยบายแบบไหนถึงจะแก้ปัญหาเรื่องสวัสดิการได้
รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า เรื่องรัฐสวัสดิการไม่ใช่เป็นเพียงนโยบายทางสังคมแต่สะท้อนประเด็นทางการเมืองด้วย เพราะฉะนั้นรัฐสวัสดิการกับประชาธิปไตยคือเรื่องเดียวกันแยกออกจากกันไม่ได้ หากเราบอกว่าไม่เกี่ยวกันสุดท้ายเราก็จะได้เพียงแค่สังคมสงเคราะห์ การบริจาค โยนเศษเงินข้ามกำแพงมา เพราะฉะนั้นตนคิดว่าการที่จะเกิดรัฐสวัสดิการขึ้นได้ต้องเป็นพรรคการเมืองที่ยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตยและหลักการคนเท่ากันด้วยจึงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่จบที่การเลือกตั้ง ประชาชนต้องรวมตัวกันและกดดันเพิ่มเติมต่อไป
“ผมคิดว่าประชาชนเราไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะเริ่มเรื่องสวัสดิการเรื่องใดก่อนก็ เราสามารถที่จะหวังทุกอย่างได้พร้อมกันไม่ว่าจะเป็นการเรียนมหาวิทยาลัยฟรี เงินบำนาญสำหรับประชาชน ขนส่งสาธารณะที่ดี เพราะชนชั้นนำไม่เคยต้องเลือกว่าเขาจะเอาเรือดำน้ำหรือเครื่องบินรบก่อน ทำไมประชาชนต้องเลือก นี่คือสิ่งที่ผมอยากย้ำว่าเราสามารถคาดหวังได้ทีเดียวเพื่อที่จะทำให้เกิดสังคมใหม่ที่มีความยุติธรรมขึ้นได้” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าว
น.ส.นัสรีน (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ซื้อหนังสือและขอลายเซ็นผู้เขียน โดยให้สัมภาษณ์ว่า สนใจซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะตอนนี้ประเทศไทยยังไม่ค่อยมีรัฐสวัสดิการที่ดีจึงอยากศึกษามากขึ้น และในการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องการพรรคการเมืองที่มีแนวคิดที่คำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก เพราะสวัสดิการของไทยที่ยังไม่ดีคือเรื่องการศึกษาของเด็กและสวัสดิการผู้สูงอายุ ที่กลับกลายเป็นว่าเราต้องทำหน้าที่ดูแลพ่อแม่ทั้งที่ความจริงรัฐควรจะเป็นผู้ที่ดูแลประชาชนเพราะเราทำงานมาตลอดชีวิต
The post ‘ษัษฐรัมย์’ ชี้ ถ้ารัฐสวัสดิการแยกจากปชต. สุดท้ายได้แค่เศษเงินโยนข้ามกำแพง จี้พรรคการเมืองยืนหยัดคนเท่ากัน appeared first on มติชนออนไลน์.
Source: Matichon