
นักวิชาการภาคีเครือข่ายป้องกันอุบัติเหตุทางถนน วิเคราะห์ถึงสาเหตุถึงการเกิดอุบัติเหตุในวันแรกของการเฝ้าระวัง 7 วันเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีสถิติผู้เสียชีวิตแล้ว 41 คน โดยระบุว่าเกิดจากพฤติกรรมขับรถเร็วมากกว่าเมาแล้วขับ
สถิติอุบัติเหตุวันแรก ของช่วง 7 วันเฝ้าระวังอุบัติเหตุ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน หรือ ศปถ. รายงานยอดผู้เสียชีวิต 41 คน บาดเจ็บ 500 คน เกิดอุบัติเหตุ 477 ครั้ง ซึ่งพบว่าภาพรวมอุบัติเหตุเกิดจากเมาแล้วขับร้อยละ 42
สำหรับยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยายนต์ ร้อยละ 73 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 64 ถนนหลวง ร้อยละ 44 ถนนตำบล ร้อยละ 33
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ เชียงใหม่ 23 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ศรีสะเกษ 6 คน
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวิเคราะห์ตัวเลขผู้เสียชีวิต 41 คน กลับพบว่ามีสาเหตุจากการใช้ความเร็วมากที่สุดถึง ร้อยละ 50 สูงกว่าเมาแล้วขับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า”ความเร็ว”เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่ออุบัติเหตุรุนแรง นอกจากนี้สภาพแวดล้อมฝนตกถนนลื่นก็เป็นสาเหตุที่สร้างปัญหาทัศนวิสัยในการขับขี่
สอดคล้องกับ นายแพทย์ธนพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการความปลอดภัยทางถนน ที่แสดงความเป็นห่วงถึงยอดผู้เสียชีวิต 41 คน กว่าครึ่งเกิดจากการขับรถเร็ว บวกกับปัญหาทัศนวิสัยฝนตกถนนลื่นจึงเพิ่มความรุนแรงของอุบัติเหตุ จากสถิติผู้เสียชีวิตแต่ละปีจะพบว่า ก่อนคืนวันสิ้นปีเมื่อเดินทางถึงจุดหมายมักจะจัดเลี้ยงสังสรรค์และดื่มฉลอง ผู้ขับขี่ต้องตระหนักเรื่องดื่มไม่ขับ และเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในด่านชุมชน
ข้อมูลทางวิชาการพบว่า การขับรถเร็วเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุรุนแรง การขับรถโดยใช้ความเร็วจะเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น เพราะผู้ขับขี่มีระยะเวลาตัดสินใจน้อยลงเมื่อเกิดเหตุคับขัน และอาจทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำหรือพุ่งออกไปข้างทาง
เมื่อขับรถเร็วขึ้น ผู้ขับขี่ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น เช่นขับรถความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทางรับรู้และตัดสินใจ 2 วินาที จะต้องใช้ระยะเบรคจนรถหยุด 116 เมตร ถ้าถนนเปียกลื่นจะต้องใช้ระยะเบรคจนรถหยุดมากขึ้น หากผู้ขับขี่รถทุกประเภทยังมีพฤติกรรมขับรถด้วยความเร็ว แรงปะทะจากการชนด้วยความเร็วยิ่งเสี่ยงต่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรงขึ้นทั้งตัวเองและผู้ร่วมทางคนอื่น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต เปิดเผยว่า วันนี้มีประชาชนมาใช้บริการมากที่สุด ขณะเดียวกันสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ด้วยความปลอดภัย และขอให้ผู้เดินทางรักษาวินัยจราจร
สถิติผู้เดินทางวันแรก วันที่ 28 ธันวาคม มีปริมาณรถที่ออกจาก กรุงเทพมหานคร มุ่งสู่ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคอีสาน ประมาณ 753,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 730,000 หรือ 5 % และเดินทางมากกว่าวันธรรมดาประมาณ 30 %
ขณะที่โครงการนำร่อง One Transport ของกรมทางหลวงที่มีเป้าหมายอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ใน 41 สายทางทั่วประเทศ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา
