‘บิ๊กอุ้ม’ ถกคกก.ขับเคลื่อนฯนัดแรก ดึง ‘ธงทอง-มีชัย-สุขุม’ ดันโรดแมป ‘เรียนดี มีความสุข’

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา ของ ศธ. ครั้งที่ 1 โดยที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธาน เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ไปสู่แผนการดำเนินงานตามเป้าหมาย ประสานการทำงานภายในและภายนอกกระทรวงศึกษาธิการ

รวมทั้งภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และงานประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจอย่างต่อเนื่องทุกระยะ เน้นสื่อสารกับสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ครู นักเรียน และผู้ปกครอง โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา มาเป็นที่ปรึกษา ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทราศุ นายมีชัย วีระไวทยะ และรศ.สุขุม เฉลยทรัพย์ เชื่อว่าการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ จะทำให้การขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาไปสู่เป้าหมายได้อย่างแน่นอน

โฆษก ศธ. กล่าวต่อว่า ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นต่อนโยบายการศึกษาและแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ซึ่งได้ดำเนินการไปตั้งแต่ วันที่ 14-20 กันยายน นั้น มีผู้ตอบแบบสอบถามรวม 24,153 ราย ครอบคลุมผู้บริหาร ข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษาในทุกสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการ มีผลสรุปที่สำคัญ คือ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับนโยบายทุกข้อ เพราะมีความเหมาะสม ชัดเจน และตรงกับความต้องการ

ส่วน นโยบาย 5 อันดับแรก ที่ควรดำเนินการเร่งด่วน ได้แก่ อันดับแรก นโยบายปรับวิธีการประเมินวิทยะฐานะครู ค่าเฉลี่ย 4.29 รองลงมา นโยบายครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น ค่าเฉลี่ย 4.28 นโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ค่าเฉลี่ย 4.26 นโยบายมีรายได้ระหว่างเรียน ค่าเฉลี่ย 4.15 และนโยบายระบบแนะแนวการเรียนฯ ค่าเฉลี่ย 4.02 ตามลำดับ

นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างได้สะท้อนถึงปัญหาและให้ข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ เช่น ปัญหาภาระงานอื่นที่กระทบต่อการสอนของครู การขาดแคลนบุคลากร งบประมาณสนับสนุนการศึกษา และขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน สื่อที่ทันสมัย และสาธารณูปโภคที่จำเป็น การประเมินวิทยฐานะล่าช้า ปัญหาด้านคุณภาพและความคุ้มค่าของการแจก Tablet ส่วนข้อเสนอแนะเรื่องนโยบายฯ เสนอว่าควรเป็นนโยบายที่ดำเนินการแล้วไม่เป็นภาระด้านเอกสารและไม่เป็นภาระของครู ควรยึดความถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม ตามหลักธรรมาภิบาล เน้นส่งเสริมการเรียนการสอนที่ทำให้เด็กมีความรู้ มีความสุขในการเรียนและมีทักษะอาชีพ โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และควรพัฒนาคุณภาพชีวิต สวัสดิการและขวัญกำลังใจของครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

“ที่ประชุมยังได้เห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา จำนวน 5 ชุด เพื่อดำเนินการตามแผนงานนโยบายการศึกษาของ ศธ. ได้แก่

  1. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. เป็นประธาน และเลขาธิการ สกสค. เป็นเลขานุการ
  2. คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการศึกษา “เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา” (Anywhere Anytime) จัดทำแพลตฟอร์ม และพัฒนาระบบแนะแนวการเรียน (coaching) และเป้าหมายชีวิต โดยมีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน และมีรองเลขาธิการ กพฐ. เป็นเลขานุการ
  3. คณะอนุกรรมการจัดทำระบบวัดผลรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill certificate) และส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน (Learn to earn) โดยมีเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน และมีรองเลขาธิการ กอศ. เป็นเลขานุการ
  4. คณะอนุกรรมการจัดทำระบบการวัดผล เทียบระดับการศึกษา ประเมินผลการศึกษา และธนาคารเครดิตแห่งชาติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน และมีรองเลขาธิการ กพฐ. เป็นเลขานุการ
  5. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษา โดยมีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน และมีรองเลขาธิการ สกศ. เป็นเลขานุการ รวมทั้งได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิเศษขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อวางระบบการดูแลสุขภาพจิตในสถานศึกษา โดยจะเชิญผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับทักษะสื่อสารกับเด็ก และเรื่องสุขภาพจิต มาวางแผนการทำงานร่วมกันต่อไป” นายสิริพงศ์ กล่าว

นายสิริพงศ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของซอฟต์เพาเวอร์ นั้นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์ของรัฐบาล ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ และ รัฐมนตรีว่าการศธ.เป็นกรรมการ จึงได้มอบฝ่ายเลขานุการร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์ ของกระทรวงศึกษาธิการ

โดย รัฐมนตรีว่าการ ศธ.จะนั่งเป็นประธาน เอง เพื่อกำกับดูแล การสร้างขีดความสามารถใน การแข่งขันแรงงานทักษะสูงใน 8 สาขา ให้สอดรับกับหมุดหมายและแผนงาน Quick Win ของรัฐบาล ได้แก่ สาขาอาหาร โดยปรับหลักสูตรอาชีพระยะสั้น สาขาเกม ส่งเสริมการพัฒนาผู้เรียนในการสร้างเกมที่ตรงกับความต้องการของตลาด สาขาแฟชั่น สาขาศิลปะ และสาขาการออกแบบ ส่งเสริมการเรียนการสอนออกแบบแฟชั่นตามอัตลักษณ์ความเป็นไทย ถูกใจตลาดโลก สาขาดนตรีและสาขากีฬา ส่งเสริมการสอนเพื่อสร้างพื้นฐานดนตรีและกีฬาในระดับมัธยมศึกษาให้เข้มข้น และสาขาหนังสือ ปรับปรุงและพัฒนาห้องสมุดและสถาบันหนังสือทั่วประเทศ ในรูปแบบใหม่ที่ทันสมัย และตั้งสถาบันหนังสือและการอ่านแห่งชาติต่อไป

The post บิ๊กอุ้ม ถกคกก.ขับเคลื่อนฯนัดแรก ดึง ‘ธงทอง-มีชัย-สุขุม’ ดันโรดแมป ‘เรียนดี มีความสุข’ appeared first on มติชนออนไลน์.


Source: Matichon

News Reporter

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.