นายกรัฐมนตรี ระบุไม่รู้สึกหวั่นไหวผลสำรวจจากหลายสำนักซึ่งมีทั้งประชาชนสนับสนุนและไม่สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ระบุถือเป็นเรื่องปกติ ยืนยันทำหน้าที่ทุกอย่างให้ดีที่สุดจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสื่อมวลชนหลายสำนักเผยแพร่ข่าว เพจเฟซบุ๊ก“ขอล้าน Like สนับสนุนให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ”ทำโพลสอบถามประชาชนในโอกาสครบรอบ 4 ปี คสช.ว่ายังสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ให้บริหารบ้านเมืองต่อหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้วและไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อข้อมูลดังกล่าว เพราะที่ผ่านมามีผลโพลออกมาจากหลายสำนัก หลายประเภท ซึ่งมีทั้งที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โดยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ทุกอย่างให้ที่ดีสุด จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง จากนั้นประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง
ล่าสุด ผ่านมาแล้ว 3 วัน โพลดังกล่าวมีผู้เข้ามาตอบคำถามแล้วกว่า 500,000 โหวต แบ่งเป็น ผู้สนับสนุน 10%(ประมาณ 52,000 โหวต)และผู้ไม่สนับสนุน 90%(ประมาณ 460,000 โหวต)โดยยังเปิดให้โหวตได้ถึงต้นสัปดาห์หน้า
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีแชร์ข้อความและภาพระบุ”ประยุทธ์ขอประชาชนจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 8% ถ้าไม่ขึ้นประเทศจะล้มละลาย”ในช่วงนี้ว่า ข้อความและภาพดังกล่าวเป็นเรื่องเก่าเมื่อเดือน มี.ค.ปี 60 ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้ชี้แจงไปแล้วว่า ไม่ได้เป็นเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการตีความที่คลาดเคลื่อน พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่าไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)แต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นข้อกังวลว่ารัฐบาลจะปรับขึ้นภาษี VAT 9%(รวมภาษีท้องถิ่นอีก 1%อัตรารวมคือ 10%)ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61 ตามที่ได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 ต.ค.60 โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดปรับขึ้นภาษี VAT ตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย โดยยังคงไว้ที่อัตรา 7%เพราะไม่อยากผลักภาระให้ประชาชนเดือดร้อน จึงไม่อยากให้สังคมตื่นตระหนกและหลงเชื่อ หรือนำไปวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดความสับสน
ทั้งนี้ โดยหลักการแล้วรัฐบาลจะต้องขึ้นภาษี VAT อีก 3%เป็น 10%เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประมวลรัษฎากร แต่รัฐบาลได้ออกกฎหมายลดอัตราภาษี VAT โดยให้จัดเก็บจริงที่ 7%ซึ่งเป็นอัตราคงที่ต่อเนื่องกันมาทุกปี